หลิงกวนต้าตี้ 灵官大帝

        หลิงกวนต้าตี้ เป็นเทพอีกองค์หนึ่งที่ได้รับการยกย่องจากลัทธิเต๋า ว่าเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์ให้ความช่วยเหลือประชาชนทั่วไป ลัทธิเต๋าถือว่าท่านเป็น ธรรมาภิบาล ประจำลัทธิ

        หลิงกวนต้าตี้ มีนามที่เรียกขานกันหลายนาม แต่โดยทั่วไปแล้วเรียกท่านว่า หลิงกวน หรือ หวางหลิงกวน หรือหวางเอ้อ นามอื่นๆ เช่น

หลิงกวนต้าตี้

灵官大帝

หวางหลิงกวน

王靈官

หลิงกวนหวางหยวนโซ่ว

靈官王元帥

หลงเอินเจียนจวิน

隆恩真君

ฮัวลั่วหลิงกวนว่างเทียนจวิน

豁落靈官王天君

ฮัวลั่วหั่วเชอหวางหลิงกวน

豁落火車王靈官

ไท่อี่เหลยเซิงอิงฮั่วเทียนจุน

太乙雷聲應化天尊

อวี้ซูหั่วฝู่เทียนเจียง

玉樞火府天將

โตวเทียนจิวฉาต้าหลิงกวน

都天糾察大靈官

ตั๋วเทียนต้าหลิงกวน

都天大灵官

เซียนเทียนโซ่วเจียง

先天首將

หวางเอ้อ

王惡

หวางส้าน

王善

เหลยเสิน

雷神

ฮัวเสิน

火神

เจียงหมัวจือเสิน

降魔之神

ฯลฯ

        นอกจากนามดังกล่าวแล้ว ในบางยุคสมัย ได้เรียกขานท่านว่าเป็นเทพเจ้าแห่งสายฟ้า เทพเจ้าแห่งพระเพลิง เทพเจ้าแห่งภูตผีปีศาจ

ชีวิตสมัยเป็นมนุษย์

        จากจดหมายเหตุการณ์บันทึกในสมัยราชวงศ์หมิงได้กล่าวไว้ว่า หวางหลิงกวน แต่เดิมเป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ในตระกูลแซ่หวาง (แซ่อ๋อง) ชื่อ หวางเอ้อ 王惡 ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น หวางส้าน 王善  เป็นชาวเมืองเซียงอิน มณฑลเจียงซู แต่บางตำนานกล่าวว่าเป็นคนมณฑลเหอหนาน หวางเอ้อเป็นหนึ่งในผู้นำชุมชนที่มีความเชื่อตามลัทธิเต๋าในสมัยราชวงศ์หมิง เขาเป็นหนึ่งในผู้พิทักษ์ลัทธิเต๋า เมื่อได้ขึ้นสวรรค์แล้ว จึงได้รับหน้าที่ต่างๆจากองค์หยกอ๋องส่องเต่

บุคลิกลักษณะเมื่ออยู่สวรรค์

        หวางหลิงกวนมีบุคลิกลักษณะต่างจากที่มีชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์ คือ ใบหน้ามีดวงตาที่สามอยู่ตรงหน้าผาก ผมหนวดเคราสีแดง สวมชุดจอมพลทหารสีทอง เสื้อสีแดง สวมรองเท้าสีเขียว ยืนบนสายฟ้าและวงล้อไฟ มือซ้ายถือตราประทับสีทอง มือขวาถือกระบองแส้เหล็กสำหรับปลุกโลก บางตำนานว่าถือกระบองทองคำ ส่วนดวงตาที่สามเพื่อส่องดูความดีความชั่วของพลโลก

        หวางหลิงกวนได้ลงมายังโลกมนุษย์หลายครั้ง เพื่อส่งเสริมคนที่แข็งแรงและช่วยเหลือคนที่อ่อนแอ

        หวางหลิงกวนได้ศึกษายันต์หู้และคาถาอาคมจากอาจารย์เชวียนหยางจื่อ ซา โซ่วเจียน และติดสอยห้อยตามอาจารย์ เป็นองครักษ์ด้วย ซึ่งอาจารย์ซาโซ่วเจียนเคยศึกษาที่สำนักเทียนซื่อในรุ่นที่ ๑๓ และยังได้ศึกษาที่สำนักเสิ้นเชี่ยวอีกด้วย

        สมัยราชวงศ์หมิง มีนักพรตลัทธิเต๋าที่ได้รับความไว้วางใจจากฮ่องเต้หลายครั้งด้วยกฎหมายหลิงกวน และสร้างวัดหลิงกวนขึ้นมากมาย ย้อนหลังไปถึงราชวงศ์ซางและราชวงศ์โจว หวางหลิงกวนเป็นหนึ่งในยี่สิบสี่เทพเจ้าแห่งสวรรค์ที่มี หน้าที่ปล่อยเมฆและฝน ลงโทษกบฏและกำจัดผู้ทรยศ และตรวจสอบโลก ลงโทษผู้ที่ไม่ซื่อสัตย์และไม่กตัญญู ผู้ทรยศและชั่วร้ายและนำอันตรายมาสู่ประเทศและประชาชน         

หน้าที่ที่ได้รับและปฏิบัติโดยสังเขป

๑.เป็นผู้พิทักษ์รักษาลัทธิเต๋า ทั้งบุคคลและศาสนสถานเต๋า เช่น วัดเต๋า ศาลเจ้าเต๋า ฯลฯ

๒.เป็นขุนพลองครักษ์ประจำตำหนักองค์หยกอ๋องส่องเต่

๓.เป็นนายพลทหารผู้พิทักษ์รักษาสวรรค์ทุกชั้นและเป็นผู้พิทักษ์รักษาความปลอดภัยของโลก

๔.เป็นอธิบดีของเหล่าเทพปีศาจ ๕๐๐ ตนที่มีหน้าที่เกี่ยวกับพิธีกรรมตามลัทธิเต๋า ท่านได้ชื่อว่า “ตั๋วเทียนต้าหลิงกวน”

๕.มีหน้าที่จัดการกับโรคห่าหรือโรคระบาดที่เกิดขึ้น เช่น อหิวาตกโรค กาฬโรค ฯลฯ ที่เกิดขึ้นในโลก

๖.เป็นผู้พิทักษ์วัด สำนักลิทธิเต๋า ศาลเจ้าลัทธิเต๋า ทางวัดสำนักลัทธิเต๋าจึงสร้างเทวรูปหวางหลิงกวนไว้ตรงประตูทางเข้า

๗. ที่เมืองจิงเซียง มีกลุ่มมารปีศาจควบคุมแม่น้ำ ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนในการทำมาหากิน หวางเอ้อได้เข้าไปช่วยเหลือจัดการทำลายสำนักของกลุ่มคนชั่วเหล่านั้นจนหมดไป จนเซียนแห่งสวรรค์ได้เห็นความกล้าหาญของหวางเอ้อ จึงนำยาลงมาแจกจ่ายให้ชาวบ้าน

๘.สมัยราชวงศ์หมิงได้รับยกย่องให้เป็นเทพแห่งสายฟ้า 雷神 เป็นเทพแห่งพระเพลิง 火神 และเป็นเทพแห่งภูตผีปีศาจ 降魔之神 ที่มีชื่อเสียง

ฯลฯ

        หลิงกวนต้าตี้ จึงเป็นเทพเจ้าที่สำคัญมากองค์หนึ่งของลัทธิเต๋า ที่มีคนให้ความเคารพจนถึงปัจจุบัน วันสำคัญของหลิงกวนต้าตี้คือ

        วันที่ ๑๓ ค่ำ เดือน ๖

        วันสำเร็จเป็นเซียนคือวันที่ ๒๓ ค่ำ เดือน ๖

        ประเพณีการกินผักของจังหวัดภูเก็ตเป็นเวลา ๙ วัน ๙ คืน ตรงกับปฏิทินจีนในวันที่ ๑ ค่ำเดือน ๙ ถึงวันที่ ๙ ค่ำ เดือน ๙ ของทุกปี ซึ่งจัดโดยกรรมการศาลเจ้าจีนแต่ละแห่ง ซึ่งมีรูปเทพเจ้าจีนเป็นองค์ประธานการกินผัก แต่ยังได้เชื้อเชิญผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ให้เสด็จมาเป็นองค์สักขีพยานว่า ชาวภูเก็ตได้ให้ความเคารพนับถือ และถือศีลกินผัก เพื่อขจัดโรคภัยไข้เจ็บ โรคห่าระบาด ตลอดจนการขอพรเหล่าบันดาเทพเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ อันมี เทพเจ้าหลิงกวนต้าตี้เป็นอาทิ ให้เหล่าชนทั้งหลายมีโชคมีชัยตลอดไป

สมบูรณ์ แก่นตะเคียน  ๒๗ กันยายน ๒๕๖๕

***

ภาพประกอบ

จาก

กูเกิ้ล

***