เหงี่ยมล่ออ๋อง 阎罗王
.jpg)

เหงี่ยมล่ออ๋อง หรือ เงี่ยมล่ออ๋อง หรือ แหยนหลาวหวาง 阎罗王 หรือเหยียนโหลวหวาง หรือ แหยนหลาว 阎罗 หรือ แหยนหวาง หรือแหยนหลาวไท่หวาง หรือ ไจ้เฟิงตู้ต้าตี้ 在丰都大帝คำว่า แหยนหลาว มาจากภาษาสันสกฤตว่า ยามา หรือ ยม ดังนั้น แหยนหลาวหวาง ก็คือ ยมราช พญายมราช ผู้เป็นเจ้านรก เป็นหัวหน้านรกทั้งสิบขุม และพระองค์ทรงควบคุมนรกขุมที่ห้าด้วย ทรงถือบัญชีคนที่เกิดใหม่ซึ่งในแต่ละคนได้กำหนดวันตายไว้แล้ว
นรกของจีนเป็นคติที่เอามาจากลัทธิเต๋า บวกพุทธศาสนาฝ่ายมหายานบวกความเชื่อดั้งเดิม แต่ปัจจุบันเน้นพุทธศาสนามหายาน ผู้ที่วิญญาณได้ไปท่องนรกแล้วมาเล่าให้ฟังคือ ฮ่องเต้ถังไท่จง ( หลี่ซื่อหมิน ) แห่งราชวงศ์ถัง ซึ่งครองราชย์ระหว่างพ.ศ. ๑๑๗๐ - ๑๑๙๒ ปรากฏอยู่ในพงศาวดารจีน ( ดูประวัติ เว่ยเจิง หรือ งุยเตง )
นรกของจีนความหมายเดิมมิได้อยู่ใต้พื้นดิน แต่อยู่ในภูเขาอีกโลกหนึ่ง มีความมืด เป็นเสมือนที่รวมของคุกที่ทรมานวิญญาณผู้กระทำผิดในตอนที่เป็นคน นรกทั้งสิบขุมคือศาลลงทัณฑ์ ดังนั้นในแต่ละขุมจึงมีผู้พิพากษาพิจารณาความผิดว่า ความผิดนั้นๆจะใช้เครื่องมือทรมานแบบใดในนรกขุมนั้นๆ ผู้พิพากษาในแต่ละขุมเป็นท่านอ๋อง มีลูกน้องคอยเอาวิญญาณคนผิดไปลงทัณฑ์ ตามที่ได้รับโทษ
ปัจจุบันเรียกว่า คุกใต้ดิน หรือ ตี้อี้ 地狱 หรือบางแห่งเรียก เฟิ่งตู้
เจ้านรกหรือท่านอ๋องทั้งสิบ มีดังนี้
นรกขุมที่ ๑ ฉินกวงหวาง - เจียง 秦廣王 蔣
นรกขุมที่ ๒ ชิเจียงหวาง - หลี่ 楚江王 歷
นรกขุมที่ ๓ ส่องตี้หวาง - อวี้ 宋 帝王 余
นรกขุมที่ ๔ อู่กวนหวาง - หลิ่ว 五官王 呂
นรกขุมที่ ๕ แหยนหลาวหวาง - เปา 閻 羅王 包, 阎罗王 包
นรกขุมที่ ๖ เปียนเฉิ่งหวาง - ปี้ 卞城 王 畢
นรกขุมที่ ๗ ไท่ซานหวาง - ตง 泰 山王 董
นรกขุมที่ ๘ ตู้ซื่อหวาง - หวง 都 市王 黃
นรกขุมที่ ๙ ผิงเติ้งหวาง - ลู่ 平 等王 陸
นรกขุมที่ ๑๐ จ้วงหลุนหวาง - เชว 轉 輪王 薛
ท่านอ๋องทั้งสิบนั่งบัลลังก์พิพากษาแล้ว จะส่งวิญญาณที่จะต้องรับโทษไปตามนรกขุมย่อยๆอีก ๑๓๔ ขุม แต่รวมแล้วนรกขุมหลักมีเพียง ๑๘ ขุม ซึ่งวิญญาณที่มีความผิดเบาหนักมากน้อยแตกต่างกันไป รับโทษตามโทษานุโทษ ก่อนที่จะปล่อยให้ไปเกิดใหม่
อย่างไรก็ตาม เมื่อดวงวิญญาณออกจากร่างไปแล้ว ผู้ที่วิญญาณจะต้องพบเป็นคนแรก คือ เทพหัววัวหัวม้า หรือ หนิ่วโต้วหม่าเมี่ยน 牛头马面 เขาจะพาไปเข้าเฝ้าเหงี่ยมล่ออ๋องก่อน เพื่อจะได้เปิดบัญชีคนตายว่า ใช่ไม่ใช่คนนี้ แล้วจึงส่งไปยังศาลต่างๆตามโทษหนักเบา แต่บางตำนานว่าวิญญาณจะต้องพบกับองครักษ์นรกสององค์หน้าดำหน้าขาวก่อน คือ เฮ่ยไป๋อู่ฉาง 黑白五常 เพื่อจะได้นำวิญญาณไปนรก
.jpg)
ศาลที่๑ คือ ฉินกวงหวาง ก็จะทรงใช้กระจกวิเศษส่องตรวจความดีความชั่วของดวงวิญญาณดวงนั้นหรือคนนั้นย้อนหลัง ถ้าหากทำความดีไว้มาก ไม่มีความชั่วเลยตลอดชีวิต เขาก็จะได้รับบำเหน็จ ด้วยการให้เดินข้ามสะพานทองคำไปสู่โลกสวรรค์แห่งความสุข ทางทิศตะวันตก แน่นอนว่าน้อยคนที่จะได้รับรางวัลนี้ แต่ถ้ามีความผิดเพียงเล็กน้อย ที่ต้องรับโทษทัณฑ์ ดวงวิญญาณนั้นก็จะเดินข้ามสะพานเงินไปสู่สวรรค์ทิศใต้ แล้วย้อนกลับมารับโทษเบานั้น เสร็จแล้วจึงส่งให้ไปเกิดใหม่ ส่วนเราท่านทั้งหลายก็ถูกบังคับให้เดินไปยังนรกขุมที่กำหนดอีก ๙ ขุม เพื่อชดใช้กรรมเก่าสมัยเป็นคน ตามที่ท่านอ๋องจะบัญชาตามบัญชี
.jpg)
ศาลที่ ๒ ชิเจียงหวาง นั่งบัลลังก์ แล้วพิพากษาสั่งการให้พนักงานนรกเอาวิญญาณไปลงทัณฑ์ ด้วยการพาไปที่สระน้ำเน่าเหม็นโสโครกปฏิกูล ซากสัตว์กลิ่นคลุ้ง ให้วิญญาณนั้นค่อยๆจม ด้วยดิ้นทุรนทุรายจากความเหม็นสะอิดสะเอียนก่อนที่จะตายแล้วฟื้นรับโทษอีกกี่ครั้งๆ ตามที่กำหนด ส่วนการทรมานอีกแห่งหนึ่งคือ สระน้ำแข็ง ให้ดวงวิญญาณลงไปแช่ในสระน้ำแข็ง บังเกิดหนาวเหน็บ หิวโหย แล้วตายไปฟื้นขึ้นอีกถูกทรมานเหมือนเดิม อีกพวกหนึ่งให้เข้าป่าดาบ ต้นไม้เหล็ก ใบไม้มีดคมกริบ วิญญาณทั้งหลายไร้ผ้าห่อกาย เกิดอาการร่านกำหนัดด้วยมองขึ้นไปบนยอดไม้เหล็กแต่ละต้นมีหญิงสาวสวยหนุ่มรูปหล่อเปลือยล่ออยู่ ด้วยความกำหนัดจัดพวกเขาจึงปีนต้นไม้เหล็ก เจอใบไม้มีดโกนเฉือนเจ็บก็ทนปีนขึ้นไปตกลงมาขึ้นไปใหม่ เจ็บปวดตายแล้วฟื้นขึ้นปีนใหม่ตลอดช่วงที่รับโทษ ฐานผิดข้อกาเมเมื่อเป็นคน
.jpg)
ศาลที่ ๓ ส่องตี้หวาง ผู้ควบคุม เป็นขุมที่มรมานด้วยการผูกเชือกสีดำที่เท้าแล้วเอาไปแขวนห้อยหัว ทรมานจนหัวเข่าหลุด ตาโปน เนื้อหนังหลุดร่วง ...
.jpg)
ศาลที่ ๔ อู่กวนหวาง ผู้ควบคุมลงโทษ ด้วยการให้ลงไปในสระโลหิตสีดำ วิญญาณจะรู้สึกหิวโหย พวกเขาจึงต้องกินโลหิตสีดำเน่าเหม็นนั้นเข้าไป อาเจียนตายแล้วฟื้นกินใหม่ เป็นเช่นนี้จนกว่าจะหมดเวร
.jpg)
ศาลที่ ๕ แหยนหลาวหวาง เป็นผู้ดูแล ซึ่งแต่เดิมท่านอ๋องทำหน้าที่ศาลที่๑อยู่ แต่ปรากฏว่า มีผู้ได้เดินข้ามสะพานทองเป็นจำนวนมาก สวรรค์ล้น หยกอ๋องส่องเต่ทรงเห็นดังนั้น จึงทรงให้สลับหน้าที่ทางศาลกับฉินกวงหวางเสีย นรกขุมนี้ทรงควบคุมการทรมานด้วยการถูกให้ลงไปในกระทะน้ำมันร้อนๆแบบทอดน้ำมันดวงวิญญาณ ที่ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด และหิวกระหาย ต้องดึ่มน้ำมันร้อนๆนั้นเข้าไป ทนไม่ไหวสลบตายแล้วฟื้น ถูกทรมานแบบเดิมจนกว่าจะครบกำหนดโทษ ที่จะถูกส่งให้ไปศาลที่ควบคุมการให้ไปเกิดอีกต่อหนึ่ง
.jpg)
ศาลที่ ๖ เปียนเฉิ่งหวาง ผู้เป็นประธานศาล ทรงควบคุมการลงทัณฑ์ด้วยการให้หนูปากเหล็กฟันดั่งมีดโกน เข้าแทะอวัยวะเพศเลือดสาดร้องครวญคราง ทนเจ็บไม่ไหวสลบตายแล้วฟื้นถูกทรมานต่อไป โทษอีกแบบคือ ใช้เข็มเหล็กทิ่มแทงปาก ปวดเจ็บร้องโหยหวน หิวน้ำอาหารก็กินไม่ได้ อีกที่หนึ่งคือสระน้ำเหม็นเน่าเต็มไปด้วยสิ่งโสโครก ถูกโยนลงไปในสระนั้นต้องทนทุกข์เวทนา
.jpg)
ศาลที่ ๗ ไท่ซานหวาง ทรงเป็นประธานนรกขุมนี้ ด้วยการเอาดวงวิญญาณใส่เข้าไปในเครื่องบดเนื้อ... ที่เหลือจินตนาการเอาเอง
.jpg)
ศาลที่ ๘ ตู้ซื่อหวาง องค์ประธานศาลนี้ ทรงมีหน้าที่เอาดวงวิญญาณผู้รับโทษใส่ลงไปในกระทะใบใหญ่ แล้วจุดไฟอบ ควันโขมงด้วยกลิ่นเหม็นไหม้
.jpg)
ศาลที่ ๙ ผิงเติ้งหวาง ประธานศาล ทรงมีหน้าที่ดักดวงวิญญาณด้วยตาข่ายเหล็ก เมื่อถูกตาข่ายเหล็กคลุมด้วยความร้อนความหนักทรมานเจ็บปวดแสนสาหัสทนไม่ไหวสลบตายไปแล้ว ฟื้นรับโทษนี้ต่อไปจนกว่าจะหมดกรรมเฉพาะยกนี้เท่านั้น
.jpg)
ศาลที่ ๑๐ จ้วงหลุนหวาง ทรงเป็นประธานศาล เพื่อรับดวงวิญญาณที่ได้ถูกลงทัณฑ์มาแล้ว เพื่อให้พวกเขาไปเกิดใหม่ ตามบุญกรรมที่ยังเหลืออยู่ หรือต้องไปเกิดใหม่ชดใช้กรรมที่ยังค้าง อาจจะเกิดใหม่เป็นสัตว์ชนิดต่างๆ เป็นคนยากจนลำบากแสนเข็ญ หรือหมดกรรมจะได้ไปเกิดที่ที่ได้รับความสุข ผู้ที่รับพระบัญชาจากจ้วงหลุนหวาง คือ พระนางเมิ่งปั๋วเหนียงเหนียง ด้วยการเอาน้ำชาทิพย์ให้ดึ่ม เพื่อให้ดวงวิญญาณเหล่านั้น ลืมในสิ่งที่ได้พบเห็น ถูกทรมานในนรกให้หมด ลืมทุกสิ่งทุกอย่างรวมทั้งชาติก่อนๆ แล้วเอาดวงวิญญาณใส่ในกงล้อชีวิต ให้หมุน กงล้อชีวิตจะหมุนแล้วสลัดเอาวิญญาณออกไปตกลงตามบ้านเมือง นาไร่เรือกสวน ตามที่พวกเขาจะต้องไปเกิดเข้าท้องมารดาใหม่ตามยถากรรมของแต่ละคน เพื่อเสวยสุขหรือแบกความทุกข์ยากเพื่อชดใช้กรรมเก่า ตามกงเกวียนกำเกวียนแห่งชีวิต ไม่มีที่สิ้นสุด...
มนุษย์จึงต้องละความชั่วทั้งหลาย ประกอบแต่กรรมดี ถือศีล ๕ ข้อให้ครบ ความวิบัติในอนาคตในโลกหน้าก็จะน้อยลง
: สมบูรณ์ แก่นตะเคียน ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๓
Title : Yan Luo Wang ( Yen Lo Wang )
: Somboon Kantakian
|