|
โต๊วหมุ๋หยวนจวิน 斗母元君
โต๊วหมุ๋หยวนจวิน 斗母元君 หรือ เต้าบ้อหยวนกุน ลัทธิเต๋าได้สถาปนาองค์โต๊วหมุ๋หยวนจวิน ให้เป็นองค์ผู้ทรงสร้างดาวฤกษ์ดาวเคราะห์ทั้งมวลบนเทห์ฟากฟ้า ทรงเป็นเทพธิดาแห่งดาวเหนือ พระนามเต็มคือ จิ่วเลี่ยงไท่เมี่ยวไป๋อวี้กุ้ยไท่จวี่กวง จินจิงจวี่หมุ๋หยวนจวิน 九靈太妙白玉貴台祖光金精祖母元君 บางครั้งเรียกขานพระนามว่า โต๊วหมุ่หยวนจวิน หรือ เต้าบ้อหยวนกุน โต้วหมู่หยวนกุน หรือ ตู้หมู่หยวนกุน แล้วแต่สำเนียงท้องถิ่นไหน จากเทพนิยายการสร้างโลกในพงศาวดารจีน หนังสือชื่อ ไคเภ็ก ได้กล่าวถึงการสร้างโลกไว้ โดยอาศัยพุทธศาสนาฝ่ายมหายานเป็นพื้นฐาน ประกอบตำนาน ส่วนลัทธิเต๋าในปัจจุบัน ได้ก้าวไปสู่การนำเอาหลักวิทยาศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง อธิบายให้สมเหตุผล ในข้อสัณนิษฐานการสร้างจักรวาล แล้วนำเอาเทพเจ้าสูงสุดเข้าไปเกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดสมเหตุผลมากขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ ประมาณ 140,000,000,000 ปีมาแล้ว เมื่อระบบจักรวาลได้ระเบิดขึ้น แต่พระนางเต้าบ้อหยวนกุน ได้เกิดขึ้นตั้งแต่ 1,230,000,000,000,000++ ปี ส่วนโลกมนุษย์ได้เย็นลงเมื่อ 91,000,000,000 ปี แล้วได้มีการสถาปนา ซานฉิงหรือส่ามก้วนไต่เต่ หรือสามผู้ยิ่งใหญ่แห่งสวรรค์ ได้แก่ เทพหยวนซื่อเทียนจวิน 元始天尊 หลิงเป่าเทียนจวิน 靈寶天尊 และ เต๋อไต้เทียนจวิน 道德天尊 ต่อมาซานฉิงจึงทรงสถาปนาองค์หยกอ๋องส่องเต่หรือ อวี้หวงต้าตี้玉皇大帝 เพื่อให้ทรงปกครองบริหารดูแล คล้ายตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมกับสถาปนา โฮ่วถู่หวงจือ后土皇祗 พระราชินีของฮ่องเต้แห่งสวรรค์ ซึ่งมีหน้าที่ปกครองดูแลสวรรค์และโลกมนุษย์ ในช่วงที่จักรวาลได้ระเบิดอยู่นั้น ทำให้เกิดแสงเจิดจ้ารัสมีสว่างจ้าไปทั่ว พร้อมทั้งพลังงานแห่งความร้อน จึงทำให้เกิดพระนามอีกพระนามหนึ่งของพระองค์ คือ จวี่กวง หรือ จวี่กวงฟู่เหยิน หรือพลังแสงสีม่วง ที่มีพลังความร้อนสูง การระเบิดครั้งนี้ทำให้เกิดเทห์วัตถุขนาดต่างๆลอยอยู่ นั่นคือ ดาวฤกษ์ ซึ่งยังคงความร้อน ทำให้เราเห็นแสงกระพริบในเวลากลางคืน อีกกลุ่มหนึ่งคือ ดาวเคราะห์ที่ดับและเย็นลงแล้ว เช่น ดวงจันทร์ ดาวพุธ โลก ฯลฯ จากเทห์ฟากฟ้าที่มองเห็น ดวงดาวเป็นกลุ่มๆนี่เอง ได้มีการตั้งชื่อ เป็น กลุ่มดาวเหนือ หรือ เป่ยโต๊วซิง หรือ ปักเต้าแช 北斗星 มีฮ่องเต้แห่งดวงดาว คือ จื่อเว่ยต้าตี้ 紫微大帝 หรือ จื่อเว่ยซิง 紫微星 และเทียนหวงซิง 天皇星 ผู้ช่วยแห่งดวงดาว เป็นต้น จากตำนานหนึ่ง ได้กล่าวถึงประวัติไว้ว่า เดิม พระนางเป็นสามัญชน เป็นผู้หญิงพรหมจรรย์ พำนักอยู่ในราชณาจักรโจวเอวทางทิศเหนือ กษัตริย์แห่งอาณาจักรนี้ทรงทราบข่าวของนาง จึงได้ขออภิเษกสมรส จนพระนางได้มีพระโอรสถึง ๙ องค์ อาณาจักรแห่งนี้เพียบพร้อมด้วยกษัตริย์ที่ทรงไว้ซึ่งคุณธรรม ทศพิธราชธรรม ความเป็นธรรม ราษฎรต่างได้รับความสุขกันถ้วนหน้า ขณะนั้นเทพหยวนซื่อเทียนจวินได้เสด็จผ่านทางอาณาจักรนั้น ทรงเห็นจึงเหาะลงไปหาท่านอ๋อง มเหสีและโอรสทั้ง ๙ องค์ แล้วตรัสชวนให้ขึ้นสวรรค์ไปพร้อมกัน ทรงสถาปนานางให้เป็น เทพโต๊วหมุ๋หยวนจวิน และโอรสทั้งเก้าเป็นเทพกลุ่มดาวเหนือที่เรียกว่า จิ่วหวงต้าตี้ หรือ กิวอ๋องไต่เต่ อีกตำนานหนึ่งจากคัมภีร์ของเต๋า กล่าวเกี่ยวกับเทพเต้าบ้อหยวนกุนไว้ว่า วันหนึ่ง พระนางได้เสด็จประพาสอุทยาน เสด็จไปถึงสระน้ำพุร้อน และถัดไปเป็นสระบัว ทรงหลงไหลน้ำอุ่นจึงเสด็จลงสรงน้ำอุ่นในสระนั้น อย่างสบายพระทัย ทันใดนั้น ปรากฏว่ามีดอกบัวตูมกำลังทะยอยกันโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำจำนวน ๙ ดอก ในดอกบัวนั้นมีเด็กผู้ชายน่ารักน่าชัง พระนางจึงทรงนำขึ้นไปพระตำหนัก ทรงเลี้ยงเป็นบุตรทั้งเก้าองค์ และทรงได้รับการสถาปนาพระนามว่า เป่ยโต๊วจิ่วเจินเซิ่งเต๋อเทียนจวิน 北斗九真聖德天后 เมื่อโอรสเติบใหญ่ จึงพระราชทานนามตามลำดับเวลากำเนิด คือ
๑. ถางหลางไท่ซิงจวิน 貪狼太星君 เทพดาวดวงแรกที่มองเห็นได้ จากเทพดาวทั้งเก้าดวงนี้เดิมเป็นที่รู้กันว่ามีเพียง ๗ ดวงคือ ดาวที่มองเห็นได้ กลุ่มดาวเหนือ เป่ยโต๊วซิง 北斗星 หรือกลุ่มดาวไถ ต่อมาลัทธิเต๋าบางกลุ่มได้กำหนดเพิ่มอีกสององค์ บางกลุ่มไม่ยอมรับ แต่รับเอา เพียง ๗ องค์ แล้วกำหนดภารกิจว่า เป็นผู้ดูแลโชคชะตา ของมนุษย์และโลกตลอดจนในจักรวาล เทพดาวแต่ละองค์จะดูแลองค์ละ ๒๐ ปีหมุนเวียนเปลี่ยนกันไป บางตำนานถือว่า จื่อเว่ยซิง 紫微星 คือเทพดวงดาวองค์พี่ใหญ่ เดิมชื่อ โก้วเฉิงซิง 勾城星ต่อมาได้เป็น จื่อเว่ยต้าตี้ 紫微大帝 องค์ที่ ๒ คือ เทียนหวงซิง 天皇星 ในตำแหน่งผู้ช่วย ดังนั้นกลุ่มนี้จึงไม่มีชื่อ สององค์สุดท้าย พระนามทั้ง ๙ องค์นี้พุทธศาสนาฝ่ายมหายานได้นำเอาคติเต๋าไปใช้เรียกขานเช่นเดียวกัน และยังได้แบ่งภาคอีก ๙ องค์ เป็น ดาวนพเคราะห์หรือ ดาวเคราะห์ทั้ง ๙ ตั้งแต่พระอาทิตย์ ถึงพระเกตุ ฝ่ายมหายานจึงเรียก กิวอ๋องไต่เต่ ในช่วงเทศกาลกินผักด้วย โดยอ้างว่าชาวบ้านทั่วไปใช้เรียกขานกัน อย่างไรก็ตามในตำนานการกำเนิดเทพเจ้า เรื่อง เฝิงเสินเอี่ยนอี้ 封神演义 หรือ เฝิงเสินปัง 封神榜 ที่แปลเป็นไทย ใช้ว่า พงศาวดารจีน ห้องสิน กล่าวไว้ตอนหนึ่ง ภายหลังเสร็จศึกแล้ว เกียงจูแหย หรือ เจียงจื่อหยาได้ประกอบพิธีเรียกวิญญาณที่ตายในการรบ มาแต่งตั้งเป็นเทพเจ้า ในครั้งนั้น ได้แต่งตั้ง ปักเต้าแฉ่ หรือดาวทิศเหนือ มี ๙ คน คือ อึ้งเทียนเสียง อินปิกัน ( จีปิกัน ) อึ้งเก๋งหงวน ฮั้นเสง ฮั้นเปียน เสาจ๋วนจง หงวดสุ่น กวยสิน และ ตังต๋ง นอกจากนี้ยังมีตำนานเกี่ยวกับพระนางอีกหลายเรื่อง ที่ไม่ได้นำมากล่าวไว้ พระรูปหรือกิมสิ้นที่ปรากฏมีหลายป้าน เช่น มี ๔ พระเศียร ๔ พระพักตร์ พระพักตร์หน้ามี ๓ พระเนตร ๘ พระกร ทรงพนมพระหัตถ์ อีก ๖ พระกรถือ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ เข็มขัดเพชรพลอย ธนูและศร ตราประทับ ง้าว นั่งขัดสมาธิ คล้ายรูปพระนางมาริชิ เทพธิดาแห่งอรุณรุ่งของธิเบต ส่วนรูปที่ปรากฏทั่วไป ดังที่เห็นในภาพนี้ บทสวดสรรเสริญ เทพเจ้าโต๊วหมุ๋หยวนจวิน มี สอง แบบ ดังนี้ แบบที่ ๑ 斗母元君寶誥
แบบที่ ๒
斗母元君寶誥(二)
ศาลเจ้าจีนหลายแห่งได้นำเอานาม โต๊วหมุ๋ 斗母 ไปใช้ประกอบนามศาลเจ้า คำนี้หมายถึง มารดาแห่งดาว เช่น ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเต้าโบ้เก้ง 水推斗母宫 หรือที่ปีนังมีศาลเจ้าเต้าบู้เก้ง เป็นต้น ********* : สมบูรณ์ แก่นตะเคียน ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๒
Title : Dou Mu Yuan Jun
: 斗母元君
: Somboon Kantakian
เครดิต : กิตินันท์ วิริยะกิจวัฒนา ภูร์สังฆภัณฑ์ (เจ๊หงส์) 076 256 273 , 089 7818221
|
|
|